Menu.Menu.
Interview
Fashion
Art & Design
Music
Movie
Social Issue
Culture
History
Interview
Fashion
Art & Design
Music
Movie
Social Issue
Culture
History
story
Wannida Kruemanee
photographer
published
14.1.25
days-since-publication
Thai
English
BEATFOREST

Let the sounds indulge you against the backdrop of nature.

Explore more
View this post on Instagram

A post shared by EQ (@eq_archives)

View this post on Instagram

A post shared by EQ (@eq_archives)

จักรวาลความสัมพันธ์ของคนชาติพันธุ์กับป่า และสายตาความเป็นอื่นของรัฐไทย ผ่านกรณี “บิลลี่ พอละจี” กระเหรี่ยงบางกลอย ณ ใจแผ่นดิน

“พวกเราขออยู่บ้านบางกลอยบนใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนเดิม และเราจะให้ความร่วมมือช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดูแลป่า เพื่อความมั่นคงของประชาชนและประเทศชาติในอนาคต” - บันทึกฉบับสุดท้ายของบิลลี่ เพื่อเตรียมยื่นถวายฎีกาเรียกร้องสิทธิและการดำรงอยู่ในผืนป่าแก่งกระจาน

เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ บิลลี่ - พอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย ณ ใจแผ่นดินแห่งผืนป่าแก่งกระจาน ถูกบังคับให้สูญหาย จากการต่อสู้เพื่อสิทธิและการดำรงอยู่ในผืนป่าแก่งกระจาน ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่บนผืนดินแห่งนี้มาอย่างยาวนาน แต่รัฐไทยกลับไล่รื้อและกล่าวหาเพื่อให้พวกเขาออกจากพื้นที่ใจแผ่นดินที่เป็นเสมือนจิตวิญญาณและวิถีชีวิต การรู้จักบิลลี่ในฐานะนักต่อสู้เพื่อสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ให้มากขึ้น อาจต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจถึงวิถีชีวิตและความสัมพันธ์ของคนกับป่าเสียก่อน

photo credit : Nakharin / IMN

จักรวาลความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง

ความเคารพถือเป็นหัวใจของระบบความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ

สรรพสิ่งที่ดำรงชีวิตล้วนมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องระหว่างกัน ธรรมชาติที่แวดล้อมตัวมนุษย์ ทั้งผืนดิน แม่น้ำ อากาศ สัตว์ป่า ต้นไม้ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่คอยปกปักษ์รักษาที่อยู่เหนือประสาทสัมผัสของมนุษย์ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการอธิบายปรากฎการณ์ธรรมชาติของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ส่งผลให้พวกเขาปฏิบัติตนเคารพต่อธรรมชาติอย่างยิ่ง ด้วยมุมมองธรรมชาติล้วนมี ‘เจ้าของ’ มนุษย์เป็นเพียง “ผู้เข้ามาใช้” และเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเท่านั้น 

ธรรมชาติสำหรับชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเป็นสิ่งที่มี ‘จิตวิญญาณ’ ไม่ใช่วัตถุกายภาพที่จับต้องได้ มนุษย์จึงไม่อาจครอบครองธรรมชาติได้ เพราะมนุษย์ไม่มีอำนาจใด มนุษย์ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ปราศจากธรรมชาติ ธรรมชาติจึงเป็นเสมือนผู้มีพระคุณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ การปฏิบัติตนด้วยความเคารพ ทำสิ่งดีงามตามวัฒนธรรมและแบบแผนประเพณี จะไม่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อธรรมชาติ สังเกตได้จากพิธีกรรมที่เป็นสัญลักษณ์ถึงการแสดงออกว่า “ขอใช้” และ “ขอบคุณ” ธรรมชาติเพื่อความสัมพันธ์อันดี มุมมองนี้จึงกลายเป็นพื้นฐานของความรู้ที่ใช้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอไม่ใช่แค่บนผืนป่าแก่งกระจานเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงบริเวณภาคตะวันตกของประเทศไทยเช่นเดียวกัน

photo credit : Lakpa / AIPP

ไร่หมุนเวียนเกษตรกรรมบนพื้นฐานของการเคารพธรรมชาติ

การทำเกษตรกรรมแบบไร่หมุนเวียน เป็นหนึ่งในองค์ความรู้สำคัญในการดำรงชีพของชาวกะเหรี่ยง ‘ผู้เฒ่า’ หัวหน้าชุมชน มักจะเป็นคนเลือกสถานที่ตั้งถิ่นฐานและทำไร่ผ่านองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่สะสมมา โดยมีเป้าหมายว่า หมู่บ้านจะต้องตั้งอยู่อย่างถาวร สามารถปลูกข้าวให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ มีผืนดินที่เพียงพอต่อการเพาะปลูกทุกปี จะเห็นได้จากบ้านบางกลอย ณ ใจแผ่นดิน ที่ชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญออยู่มากกว่า 100 ปี การตั้งถิ่นฐานถาวรของชาวกะเหรี่ยงจึงกลายเป็นเงื่อนไขหลัก ทำให้ระบบจัดการทรัพยากรธรรมชาติเป็นไปด้วยความยั่งยืน และมีความมั่นคงเพียงพอให้คนรุ่นหลังดำรงชีวิตอยู่ได้

ระบบไร่หมุนเวียน เป็นการใช้ป่าไม้เป็นที่ดินในการทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตเป็นเวลา 1 ปี และพักฟื้นตัวเป็นระยะเวลา 5 - 7 ปี เพื่อให้แร่ธาตุในดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ แล้วจึงวนกลับมาใช้พื้นที่เดิมอีกครั้ง ระบบไร่หมุนเวียนจำเป็นต้องใช้ความรู้หลายประเภท ได้แก่ 1. ความรู้เรื่องป่า 2. ความรู้เรื่องสภาพอากาศและฝนที่เหมาะแก่การเพาะปลูก 3. ความรู้เรื่องพืชพรรณเพื่อวางผังในการเพาะปลูกและชนิดของพืชที่เหมาะแต่ละฤดูกาล 4. ความรู้เรื่องสัตว์ที่อาจเป็นศัตรูพืชในการทำเกษตรกรรม 5. ความรู้เรื่องสิ่งที่คุ้มครองธรรมชาติ ทุกวิธีการทำไร่หมุนเวียนจำเป็นต้องขอขมาและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อแสดงถึงความเคารพ

จะเห็นได้ว่าความรู้ในการทำไร่หมุนเวียนนั้นมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันหลายมิติทั้งองค์ความรู้และความเชื่อเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในดำรงชีพ ไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือถือครองของที่ดิน เกิดการหมุนเวียนเพื่อให้ป่าไม้และแร่ธาตุในดินฟื้นตัว สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บิลลี่ พอละจี พยายามแสดงให้รัฐไทยเห็นถึงความเกื้อกูลระหว่างคนกับป่าที่เกิดขึ้นในวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงมาโดยตลอด ทั้งการเล่าเรื่องผ่านสารคดีที่ทำขึ้นสู่สาธารณะ และการเรียกร้องผ่านพื้นที่ทางการเมือง

ความสัมพันธ์คนกับป่าที่รัฐไทยไม่อาจเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม รัฐไทยไม่ได้มีมุมมองวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนกับป่าเหมือนดั่งชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ความหลากหลายขององค์ความรู้ได้ถูกรวมศูนย์ความรู้และถูกนิยามแบบองค์ความรู้สมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์ และการก่อตั้งของรัฐชาติสมัยใหม่ ทำให้รัฐมีอำนาจสามารถบังคับใช้กฎหมายเหนือสิทธิการอาศัยอยู่ของชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในผืนดินแห่งหนึ่งตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษหรือนานนับร้อยปี รัฐสามารถเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในเขตแดนของตนเองเพียงผู้เดียว ส่งผลให้สิทธิที่เคยมีของชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมจำเป็นต้องขออนุญาตจากรัฐเสียก่อน ผลจากการบังคับใช้กฎหมายนี้เองส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์

 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติเกิดขึ้นครั้งแรกปี พ.ศ. 2504 หมวด 3 การคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ มาตรา 16 ใจความส่วนหนึ่งว่าด้วย การห้ามมิให้ผู้ใดยึดถือครองที่ดิน รวมถึงการสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า และทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ

สิ่งนี้เป็นหนึ่งในความพยายามในการใช้กฎหมายในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่ไม่ได้มีเพียงแนวคิดในการอนุรักษ์พืชพรรณหรือสัตว์ป่าเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้รัฐมีอำนาจเหนือบริเวณพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถไปถึงได้ ความพยายามในการจัดการนี้ทำให้ลิดรอนสิทธิที่มีอยู่ดั้งเดิมของชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในผืนป่า เบียดพวกเขาให้กลายเป็นคนชายขอบและมองพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่บุกรุกพื้นที่ป่าของรัฐ พร้อมกับขับและไล่รื้อพวกเขาออกจากบริเวณที่อาศัยอยู่มาช้านาน

การจัดการป่าภายใต้แนวคิด “ป่าปลอดคน” ของรัฐผ่านการควบคุมพื้นที่ ส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในผืนป่ามาช้านานจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานและได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินตามที่กำหนด โดยปราศจากการทำความเข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนกลุ่มนี้ ดังเช่นกรณีพื้นที่ใจแผ่นดิน ถิ่นฐานของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยที่รัฐพยายามให้พวกเขาออกจากพื้นที่เนื่องจากเป็นเขตอุทยานแก่งกระจาน จนนำมาสู่การถูกบังคับให้สูญหายที่เกิดขึ้นกับ บิลลี่ พอละจี

บิลลี่ พอละจี ผู้พิทักษ์สิทธิในการดำรงอยู่ของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย

บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ

“พี่บิลลี่บอกว่า ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาเดินทางออกมาจากป่าเด็งมาถึงบางกลอยแล้วเขาหายไป ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องตามหาเขา ให้รู้เลยว่าเขาถูกฆ่าตาย” คำพูดของ มึนอ-พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่

ความขัดแย้งที่นำมาสู่การสูญหายของบิลลี่ เริ่มมาจากหลังจากรัฐไทยประกาศตั้งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชาวบ้านกระเหรี่ยงบางกลอยที่อาศัยอยู่ ณ ใจแผ่นดินในผืนป่าแก่งกระจานได้กลายเป็นกลายเป็นผู้บุกรุกป่าในเขตอุทยาน ในปี พ.ศ. 2539 เจ้าหน้าที่อุทยานพูดคุยและเจรจากับชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ให้ออกจากเขตที่อยู่เดิมบริเวณใจแผ่นดิน ไปยังบางกลอยล่างผ่านคำมั่นสัญญาว่าจะมอบที่ดินทำกินให้ ชาวกะเหรี่ยงบางส่วนได้ย้ายไปพื้นที่ใหม่ แต่เมื่อย้ายไปจริง ๆ แล้วกลับพบว่า ไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินให้ครบทุกครัวเรือนและที่ดินที่ย้ายไม่สามารถทำการเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมได้ ทำให้ชาวกะเหรี่ยงที่ย้ายออกไปได้ย้ายกลับมา ณ ใจแผ่นดิน ส่งผลให้เป็นชนวนความขัดแย้งกับรัฐไทยมาตั้งแต่ช่วงเวลานั้น

ต่อมาต่อมาปี พ.ศ. 2554 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานสมัยนั้น ได้เริ่มปฏิบัติการยุทธการตะนาวศรี ทำการจับกุมไล่รื้อพร้อมกับเผาทำลายบ้านและสิ่งปลูกสร้างของชาวกะเหรี่ยงกว่า 98 หลัง เพื่อผลักให้พวกเขาออกจากพื้นที่ใจแผ่นดิน โดยอ้างว่ากลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่เป็นชนกลุ่มน้อยที่เข้ามายึดครองพื้นที่ประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายทั้งที่พวกเขามีบัตรประชาชน และกล่าวอ้างว่าครอบครองอาวุธ โดยอาวุธที่กล่าวอ้างเป็นเพียงอุปกรณ์เกษตรกรรมและล่าสัตว์เล็กเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ที่สร้างความขัดแย้งระหว่างรัฐกับชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่เป็นอย่างมาก เกิดการเรียกร้องสิทธิในพื้นที่ใจแผ่นดินและการกระทำการของเจ้าหน้าที่อุทยาน

บิลลี่ พอละจี เป็นหนึ่งในผู้เป็นกำลังหลักการพิทักษ์และปกป้องสิทธิให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่ตลอดช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งขึ้น และได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่เพรียง ตลอดช่วงก่อนและเข้ารับตำแหน่งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล เขาพยายามแสดงแก่สาธารณะให้ประจักษ์ถึงวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยตามเรื่องราวที่เล่าไว้ก่อนหน้านี้

แต่ด้วยอคติที่รัฐไทยพยายามยัดเยียดความผิดและความเป็นอื่นให้แก่พวกเขา  ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานได้เผาทำลายบ้านและสิ่งปลูกสร้างของพวกเขา ส่งผลให้ปู่ของบิลลี่ที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยและชาวบ้าน 6 คน ได้ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในข้อหานำกำลังเข้ารื้อทำลายเผาบ้านเรือนและทรัพย์สินกว่า 20 ครัวเรือน เป็นเวลาเกือบ 3 ปีหลังจากยื่นฟ้อง ศาลปกครองได้เรียกพยาน นั้นคือบิลลี่ พอละจี เข้าให้ข้อมูลแก่ศาลเพื่อพิจารณาในเดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2557 

เพียงระยะเวลา 1 เดือนก่อนที่ศาลปกครองนัดหมายพยานเพื่อให้ข้อมูล บิลลี่ พอละจี ได้สูญหายไปในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 โดยคำให้การของชาวบ้านบริเวณบางกลอยกล่าวเพียงว่า พบเห็นบิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานคุมตัวที่ด่านมะเร็วเท่านั้น ต่อมาในวันที่  3 กันยายน พ.ศ. 2562 พบกระดูกที่คาดว่าเป็นกระดูกของบิลลี่ในถังน้ำมันที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ยืนยันการเสียชีวิตโดยไม่ทราบวิธีการ แต่เป็นการเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี เกิดการฟ้องร้องและขึ้นศาลระหว่างนายชัยวัฒน์และพวกอย่างต่อเนื่องว่าเป็นสาเหตุในการฆาตกรรม

เมื่อสิงหาคม พ.ศ. 2565 สำนักอัยการสูงสุดส่งเอกสารถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสั่งฟ้องคดีอาญา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกอีก 4 คน รวม 4 ข้อหา หนึ่งในนั้นมี การร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อย่างไรก็ตามวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรและพวก กรณีควบคุมตัวบิลลี่ แต่ไม่ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนตามขั้นตอน ส่วนข้อหาการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและอำพรางศพศาลยกฟ้องทั้งหมดเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ หลังจากกระบวนการยุติธรรมจบสิ้นเป็นระยะเวลา 10 ปี การสูญหายของบิลลี่ยังคงหาตัวคนกระทำผิดมารับผิดชอบไม่ได้

เมื่อรัฐอาจเปลี่ยนแปลงทั้งหมด สังคมจึงต้องมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง

เหตุการณ์การถูกบังคับให้สูญหายสะท้อนถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนที่รัฐพยายามลิดรอนสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ และความไม่เข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างหลากหลาย และการถูกบังคับให้สูญหายของบิลลี่จากการต่อสู้เพื่อสิทธิการดำรงอยู่และทำกินไม่ได้เป็นเพียงกรณีเดียวที่เกิดขึ้นเท่านั้น มีอีกมากว่า 10 กรณีที่ถูกบังคับให้สูญหาย 

แม้ปัจจุบันรัฐไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เริ่มมีนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตของชาติพันธุ์ผ่านการกำหนดพื้นที่เขตวัฒนธรรมพิเศษ เป็นแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อคุ้มครองชาติพันธุ์ทั้งเรื่องสิทธิทำกินและอยู่อาศัย รวมถึงการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมสำหรับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาเศรษฐกิจบนฐานวัฒนธรรม ปัจจุบันปี พ.ศ. 2567 มีพื้นที่ชาติพันธุ์ที่ประกาศคุ้มครองแล้ว 23 พื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทรุนแรงกับรัฐกลับไม่ได้ขึ้นเป็นพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิต อาทิ บ้านบางกลอย ณ ใจแผ่นดิน และช่องว่างระหว่างกฎหมายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการพิจารณาว่าพื้นที่ไหนเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษหรือไม่ ยังคงเป็นดุลพิจนิจของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบบนฐานคิดการมองวัฒนธรรมเป็นองค์รวมทั้งที่วิถีชีวิตของชาติพันธุ์แต่ละพื้นที่ล้วนแตกต่างกัน  

อย่างไรก็ตามการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนหรือการร่วมปกป้องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับผืนป่า ไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียทางตรงเท่านั้นที่ลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้ และพยายามเรียนรู้และเข้าใจความสัมพันธ์ของคนกับป่า เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงและส่งเสียง เพื่อให้ผู้คนตระหนักรู้เป็นวงกว้างมากขึ้นได้ เพราะท้ายสุดป่าไม่ใช่แค่เพียงพื้นที่ที่เป็นวิถีชีวิตของสัตว์เท่านั้น มีกลุ่มคนชาติพันธุ์อีกจำนวนมากที่มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับป่าเช่นเดียวกัน

อ้างอิง
  • วัชระพงศ์ ธนไชยเต็มวงศ์. 2564. สิทธิในที่ดินของชุมชนกะเหรี่ยงบ้านใจแผ่นดินและบ้านบางกลอยบนในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทย. (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). ธรรมศาสตร์, คณะนิติศาสตร์, สาขากฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
  • ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี. 2534. องค์ความรู้นิเวศน์วิทยาของชุมชนเกษตรกรรมในเขตป่าศึกษา กรณีชุมชนกะเหรี่ยงในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร.วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). ธรรมศาสตร์, คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา.
  • so07.tci-thaijo.org
  • amnesty.or.th
  • amnesty.or.th
  • policywatch.thaipbs.or.th

‍

BEATFOREST

Let the sounds indulge you against the backdrop of nature.

Explore more
Read more
Music
‘เบิร์ด—ธงไชย แมคอินไตย์’ ศิลปินที่ ‘ส่ง.ความ.สุข’ ให้โบยบินอยู่ในใจคนไทยกว่า 30 ปี
ก่อนจะข้ามไปปีที่ 39 ในวงการบันเทิงของพี่เบิร์ด เราอยากชวนทุกคนมาเปิดอ่านเส้นทางชีวิต จากสลัมบางแค สู่การเป็นซุปเปอร์สตาร์
Movie
‘เพชรา เชาวราษฎร์’ จาก ‘เทพธิดาเมษาฮาวาย’ สู่นางเอกหนังไทยเบอร์ 1 ตลอดกาล
ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์ไทยยุคเก่า โดยเฉพาะช่วงยุค 2500 – 2520 ย่อมจะต้องคุ้นเคยกับชื่อ “อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์” นางเอกระดับตำนาน
History
‘กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ’ กับหนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว เมื่อเกลียวคลื่น วัยเด็ก เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
“หลายปีผ่านมา ขณะประจันหน้ากับหมู่ทหารยิงเป้า พันเอกเอาเรเลียโน บวนเดียอดไม่ได้ที่จะระลึกถึงความหลังตอนที่พ่อพาเขาไปรู้จักน้ำแข็ง"
Read more
Music
‘เบิร์ด—ธงไชย แมคอินไตย์’ ศิลปินที่ ‘ส่ง.ความ.สุข’ ให้โบยบินอยู่ในใจคนไทยกว่า 30 ปี
ก่อนจะข้ามไปปีที่ 39 ในวงการบันเทิงของพี่เบิร์ด เราอยากชวนทุกคนมาเปิดอ่านเส้นทางชีวิต จากสลัมบางแค สู่การเป็นซุปเปอร์สตาร์
Movie
‘เพชรา เชาวราษฎร์’ จาก ‘เทพธิดาเมษาฮาวาย’ สู่นางเอกหนังไทยเบอร์ 1 ตลอดกาล
ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์ไทยยุคเก่า โดยเฉพาะช่วงยุค 2500 – 2520 ย่อมจะต้องคุ้นเคยกับชื่อ “อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์” นางเอกระดับตำนาน
History
‘กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ’ กับหนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว เมื่อเกลียวคลื่น วัยเด็ก เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
“หลายปีผ่านมา ขณะประจันหน้ากับหมู่ทหารยิงเป้า พันเอกเอาเรเลียโน บวนเดียอดไม่ได้ที่จะระลึกถึงความหลังตอนที่พ่อพาเขาไปรู้จักน้ำแข็ง"
Archive
About Us
Collaborate with Us
Contact Us
Subscribe to EQ
Stay up to date with the latest stories
Thank you!
Oops! Something went wrong while submitting the form.