‘ชายแท้’ จากความภาคภูมิสู่ความอัปยศ เมื่อความเป็นชาย ไม่ได้หมายถึงดี
“ผมนี่ชายแท้ แมนทั้งแท่งนะครับ”
~หากย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปี ประโยคนี้ก็คงเป็นเพียงประโยคบอกเล่าธรรมดา ไม่มีอะไรน่าตะขิดตะขวงใจ แต่หากนำประโยคเดียวกันนี้มาพูดในปัจจุบัน ถ้าไม่ใช่มุกตลก ผู้ฟังคงหัวเราะแห้ง หรือไม่ก็พยายามตีตัวออกห่างจากผู้พูด เพราะคำว่า ‘ชายแท้’ ‘แมนทั้งแท่ง’ รวมถึง ‘ลูกผู้ชาย’ ในบริบทของสังคมปัจจุบันนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จนเรียกได้ว่า จากที่เคยนำมาพูดกันได้อย่างเต็มปาก สู่คำที่หลายคนเบ้ปากใส่ และหากเรียกใครว่าชายแท้เข้า ก็ถือว่าเป็นการด่าทอกันเลยทีเดียว
~ชายแท้ เคยสื่อถึงผู้ชายที่มีความเป็นชาย (Masculinity) และเป็นบุคคลตรงเพศ (Cisgender Heterosexual) หรืออาจเรียกได้ว่า “สมกับเป็นชายชาตรี” ในยุคสมัยก่อนที่ระบบปิตาธิปไตยยังคงถูกยึดถืออย่างขันแข็ง โดยผู้ที่ถูกนับถือเป็นชายแท้นั้น จะต้องเป็นผู้ชายที่มีความห้าวหาญ มาดแมน ไม่แสดงด้านอ่อนแอ และไม่หลงเสน่ห์เพศเดียวกัน
~เมื่อพูดถึงผู้ชายลักษณะนี้แล้ว หลายๆ คนคงจะนึกถึงพระเอกละคร ซึ่งอาจจะดูห่าม หรือมีความเป็นสุภาพบุรุษ ตัวละครหนึ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เมื่อมีคำว่าชายแท้ คือ ‘แม่ทัพชาง’ จากแอนิเมชั่นชื่อดัง ‘มู่หลาน’ (Mulan) ผู้ร้องเพลง ‘สร้างนายเป็นชายแท้’ (I’ll Make a Man Out of You) ในฉากที่มู่หลานฝึกฝนเตรียมพร้อมรบนั่นเอง หากลองฟังและอ่านเนื้อเพลงดูแล้ว จะเข้าใจได้ในทันทีว่า ชายแท้ในบริบทดั้งเดิมเป็นอย่างไร อย่างในท่อนเปิดที่ร้องว่า “แสนแปลกใจยังไม่หาย นี่ลูกชายหรือสาว” (Did they send me daughters when I asked for sons) เป็นการเหยียดหยามเหล่าทหารใหม่ในกองทัพที่ยังไม่ชำนาญเรื่องการใช้กำลังสู้รบ อันมาจากอคติที่ว่ามนุษย์เพศหญิงนั้นอ่อนแอ ต่างจากผู้ชายที่แข็งแรงกว่า
~นอกจากนี้ ตัวแม่ทัพชางเองก็คือสัญลักษณ์ของความเป็นชายตามขนบ ด้วยการวางอำนาจ มีภาพลักษณ์ที่ดุดัน แถมยังมีความคิดเหยียดเพศแบบแอบแฝง (Internalised misogyny) ดังที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น ซึ่งในยุคสมัยก่อน คนแบบเขาก็คือชายแท้ที่ได้รับการสรรเสริญเยินยออย่างไม่ขาดปาก
~แต่เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป คำว่าชายแท้เริ่มไม่เป็นที่นิยม และยังมีการรณรงค์ให้หลีกเลี่ยงการใช้คำนี้อีกด้วย โดยช่วงประมาณปี 2018 จนถึง 2020 หลายคนในคอมมูนิตี้ LGBTQ+ ให้ความเห็นว่า การมีคำที่บ่งบอกว่าใครเป็นชายจริงหญิงแท้นั้นเป็นการกีดกันบุคคลข้ามเพศอย่างเห็นได้ชัด และทำให้กลุ่มคนรักเพศเดียวกันกลายเป็นชายหญิงปลอม เช่น เกย์มักจะถูกล้อว่าเป็นตุ๊ด ไม่แมน หรือไม่ใช่ผู้ชาย ทั้งที่อัตลักษณ์ทางเพศ (Gender identity) และ เพศวิถี (Sexual orientation) เป็นสิ่งที่แยกออกจากกัน การที่ผู้ชายคนหนึ่งชอบผู้ชายอีกคน ไม่ได้หมายความว่าเขาคนนั้นจะต้องมีจิตใจเป็นหญิงแต่อย่างใด
~อย่างไรก็ตาม เมื่อบริบทของสังคมมีการเปลี่ยนแปลง การใช้ภาษาและความหมายของคำก็ย่อมเปลี่ยนตาม มีคำหลายคำที่ถูกทำให้มีความหมายต่างกันในแต่ละบริบท และชายแท้ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากคำที่นำมาพูดกันด้วยความภาคภูมิใจ หรือแม้แต่ใช้แก้ต่างว่าตนไม่ชอบเพศเดียวกัน กลับกลายเป็นคำครหาที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะความหมายของมันนั้น หมายถึง ผู้ชายที่มีพฤติกรรมเหยียดเพศ ยึดถือหลักชายเป็นใหญ่ ต่อต้านแนวคิดสตรีนิยม (Anti Feminism) หากเป็นชายแท้ที่มีลักษณะนิสัยชอบใช้ความรุนแรง ก็อาจทำร้ายหรือกลั่นแกล้งผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วย อย่างกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าผู้หญิงที่ไว้ผมทรงสั้นคือเฟมินิสต์หัวรุนแรง เราจึงมักจะเห็นข่าวผู้หญิงผมสั้นถูกผู้ชายฉีดน้ำใส่ หรือกระทั่งถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง เพียงเพราะเชื่อว่าเธอเป็นเฟมินิสต์ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วหนึ่งในผู้กระทำจะถูกตัดสินจำคุก 3 ปี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แนวคิดชายเป็นใหญ่อันฝังรากลึกก็ยังคงอยู่ และไม่มีทีท่าว่าจะจางหาย
~หรือแม้แต่ในประเทศฝั่งตะวันตกที่ดูมีแนวคิดหัวก้าวหน้า ความเกลียดกลัวเฟมินิสต์ก็ยังคงมีให้เห็นประปรายอย่าง Andrew Tate ลานจอดรถทัวร์ขนาดใหญ่สาขาอินเทอร์เน็ตและขวัญใจชาวอนุรักษณ์นิยม อดีตคิกบ็อกเซอร์ผู้มีพฤติกรรมเหยียดเพศอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความเชื่อที่ว่าผู้หญิงเป็นสิ่งของของผู้ชาย ไม่ควรขับรถหรือออกไปทำงานนอกบ้าน และถ้าถูกข่มขืนก็ควรรับผิดชอบตนเอง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงมีแฟนคลับมากมายจากทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนๆ ที่เป็นผู้ชาย – หรือว่า ‘ชายแท้’ นั่นล่ะ
~คำว่าชายแท้ หรือ ‘ชายแทร่’ (โปรดกระดกลิ้นเพื่อเพิ่มอรรถรส) ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในโลกอินเทอร์เน็ต แต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นอายของความชายเป็นใหญ่ก็โผล่มาให้เห็นเรื่อยๆ ตามหน้าไทม์ไลน์ ทำให้เรามักจะเห็นสงครามขนาดย่อมระหว่างชายแทร่และเฟมินิสต์อยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ คำที่มีความหมายใกล้เคียงมากที่สุดเห็นจะเป็น ‘ซ้ายชายไทยใจหมา’ หรือก็คือผู้ชายไทยตรงเพศที่เห็นด้วยกับแนวคิดเสรีนิยม (Liberalism) มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน แต่ต่อต้านแนวคิดสตรีนิยม อย่างประเด็น ส.ส. พรรคก้าวไกลที่เคยเป็นข่าวดังถึง 4 คนด้วยกัน มีทั้งที่ทำร้ายร่างกายคนรัก และล่วงละเมิดทางเพศ แน่นอนว่าครึ่งหนึ่งได้ถูกลงมติให้ออกจากพรรคและอีกครึ่งถูกคาดโทษแล้ว แต่เพราะภาพลักษณ์ของพรรคที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมมาตลอดในหลายๆ ภาคส่วน ข่าวนี้จึงเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง หลายคนต่างก็ให้ความเห็นว่าพรรคที่สนับสนุนสิทธิเท่าเทียมไม่ควรมีชายแท้หรือซ้ายชายไทยรวมอยู่เลย
~ส่วนอีกจำพวกหนึ่งที่ใกล้เคียงกับชายแท้ คือ ‘อินเซล’ (Incel – Involuntary Celibate) หากแปลตรงตามตัวจะหมายความว่า ‘ผู้ครองพรหมจรรย์อย่างไม่เต็มใจ’ เพราะผู้คน (มักจะเป็นผู้ชาย) เหล่านี้จะแสดงออกให้คนอื่น ๆ รู้ว่าตนไม่เต็มใจโสดแต่อย่างใด จริงๆ แล้วก็อยากมีคนรักหรือคู่นอนสักคน แต่เพราะผู้หญิงนั้น “ไม่ดี” พวกเขาจึงไม่มีคู่ ซึ่งหญิงไม่ดีในที่นี้หมายถึง ผู้หญิงที่เป็นเฟมินิสต์ และผู้หญิงที่เป็น Sex worker กล่าวคือผู้หญิงที่ไม่ตรงตามกรอบของบทบาททางเพศตามมาตฐานเดิมนั่นเอง
~การเคลมเอาคำว่าชายแท้มาใช้ในความหมายเชิงลบนั้น แน่นอนว่ามีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และผู้ที่รู้สึกเดือดร้อน ซึ่งหากมองในแง่ของภาษาและวัฒนธรรม ปรากฏการณ์ภาษาดิ้นได้คือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา คำด่าสามารถเป็นคำชม และคำชมก็เปลี่ยนมาเป็นคำด่าได้ โดยเฉพาะในสังคมชาวเน็ตไทยที่ล้นด้วยความครีเอทีฟ มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก หากความเป็นชายจะสั่นคลอนด้วยการถูกนำมายำให้เป็นตัวตลกอันน่าอับอาย ไม่น่าเชิดชูเหมือนอย่างเก่า ถือเป็นการเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ของเพศที่เป็นรองและถูกเอาเปรียบ ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็คงจะไม่รุนแรงเท่ากับการกดขี่ที่มีมานานหลายศตวรรษ และยังคงดำรงอยู่จนถึงทุกวันนี้
อ้างอิง