“REAL” Max solo exhibition นิทรรศการสุดดิบจากประสบการณ์สุดห่ามของ แม็กซ์-เกรียงไกร กิมสวัสดิ์

“ถ้าถามว่าตื่นมาอยากทำอะไร… คงเป็นการวาดรูปแหละ”

“REAL” Max solo exhibition นิทรรศการเดี่ยวของ แม็กซ์-เกรียงไกร กิมสวัสดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งร้านดังย่านห้าแยกลาดพร้าวอย่าง Method to My Madness เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Love and Destroy (lad.bkk) และศิลปินผู้ปลุกปั้นคาแรคเตอร์ MAX ตัวการ์ตูนมาดนิ่งผู้นำเสนออารมณ์ดิบพล่านผ่านกิจวัตรประจำวันชวนขบขัน รวมถึงประสบการณ์ถูกกักขังที่ญี่ปุ่นกว่า 2 เดือน!

“เราไปพ่นกราฟฟิตี้ที่ญี่ปุ่น เราโดนตำรวจจับ โดนขังไปสองเดือน อยู่ในนั้นก็ได้ทบทวน เพราะเขาห้ามพูดกับใคร เราได้นั่งเงียบๆ 24 ชั่วโมง ตั้งใจว่าถ้าได้ออกมาทำ solo exhibition จะพูดถึงเรื่องนี้”

MAX บอกกับ EQ ณ ด้านหน้าของเฟรมผ้าใบขนาดใหญ่ที่มี MAX ตัวจิ๋วเอื้อมแขนออกมาจากลูกกรง เขาเขียนคำว่า “enjoy freedom” ตัวหนังสือไซส์เล็กเมื่อเทียบกับสีฟ้าที่อยู่ล้อมรอบ

งานของ MAX มักเป็นงานที่มาจากเพลง หนัง ดนตรี และประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้เหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นนับเป็นความโชคร้ายที่พอมีความโชคดี เพราะวัตถุดิบจากประสบการณ์ก้อนนั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในงานครั้งนี้

“เราไม่เชื่อเรื่องการไหว้ขอพร ไม่เชื่อเรื่องสายมูฯ แต่ตอนอยู่ในนั้น เรานึกอะไรไม่ออก สิ่งเดียวที่นึกได้คือนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (หัวเราะ) ถ้ามีจริงช่วยเราหน่อย เราสวดมนต์กับทั้งพระพุทธเจ้า พระเยซู และทุกอย่างที่นึกออก สุดท้ายก็รอดออกมา เลยทำงานให้เขาหนึ่งชิ้น (รูปปั้น MAX บนไม้กางเขน) แต่ทำในแบบของตัวเองนะ”

อีกสิ่งที่เราเห็นผ่านผลงานทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปวาดบนกระดาษ ภาพบนผ้าใบ พรมที่พื้น ภาพพิมพ์แกะไม้ หรือลวดลายบนแผ่นสเก็ตบอร์ด นอกจากความสนุกสนานจิกกัดตามสไตล์ นิทรรศการครั้งนี้ยังสื่อสารถึงความ ‘อิสระ’ ได้อย่างดี

“มีบางวันที่ต้องไปหาอัยการ เขาจะมีรถห้องขังมารับ เป็นรถมีลูกกรง มีนักโทษหลายคน เหมือนในหนัง รถต้องนั่งรถผ่านกลางเมือง เราจึงเห็นหลายคนที่อยู่ข้างนอก เขาเดินเล่นกัน รอคิวเข้าร้านอาหาร ดูดบุหรี่ เป็นชีวิตที่ธรรมดามากๆ แล้วบางคนดูเครียดๆ พวกคุณไม่ต้องเครียดเว่ย เราที่อยู่ตรงนี้ เราเครียด รูป ‘enjoy freedom’ เหมือนเป็นการบอกว่า พวกคุณมีความสุขกับอิสรภาพเถอะ เพราะอิสรภาพน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์

“สำหรับเรา มนุษย์คืออิสระ เรามีสิทธิที่จะทำตามเราต้องการ เราอยากเดินไปตรงนั้น เราก็เดินไปได้ พูดอะไรก็ได้ อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากนอนก็ได้นอน ไม่ต้องมีใครมาบอกว่า หกโมงต้องตื่นไปอาบน้ำ ห้ามพูด ไม่ได้หมายถึงแค่การกักขังนะ แต่ในเชิงความรู้สึกด้วย เหมือนถ้าเรามีแฟนที่ควบคุมเรา นั่นก็ไม่ใช่อิสระ 

“เราคิดว่าไม่แปลกเลยที่มาอยู่ตรงนี้ เพราะที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตไม่สนใคร ห่ามๆ ชอบท้าทาย แต่มันมีความหมายอะไร ทั้งกับตัวเราและคนอื่น เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเจ๋งเหรอ แน่เหรอ สิ่งที่ได้รับเวลาเราทำพลาด คืออนาคตของเรา แล้วไม่ใช่แค่เรา แต่คือพ่อแม่ รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่ต้องช่วยเหลือเรา ลำบากคนอื่นไปหมด ทำให้เรารู้ตัวว่าถ้าออกมาได้ เราต้องเป็นอีกคน ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปหมดนะ เราคงเป็นแบบเดิม แต่จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน”

สุดท้าย MAX ไม่ได้ฝากอะไรถึงวัยรุ่นหรือวัยท้าทายระบบ เพียงแต่พูดติดยิ้มหน่อยๆ ว่า “ไปเจอกันเอาเอง บอกไปก็ไม่ฟัง เพราะตอนมีคนบอกผม ผมก็ไม่ฟัง (หัวเราะ)”

นิทรรศการ REAL MAX SOLO EXHIBITION เปิดให้เข้าชมฟรีได้ที่ Black Cabin Bar ทองหล่อ 16  ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2567

ติดตามรายละเอียดของนิทรรศการเพิ่มเติมได้ที่

IG : @bridgeartagency

FB : Bridge Art Agency

‍